กาลเวลาล่วงเลยผ่านพ้น ใครบางคนที่เคยหม่นหมอง ลองนึกใคร่ครวญและไตร่ตรอง ว่าที่หม่นหมองนั้นเป็นเพราะอะไร มีประโยชน์อะไรไหมที่เป็นอย่างนี้ เพราะลองดูกี่ที กี่ที ก็ยังไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น ทำตัวเป็นคนล้มแล้วยังไม่กล้ายืนขึ้น สักวันหนึ่งเขากลับมาก็คงจะบอกว่าดีแล้วที่ฉันจากไป ลองทำตัวเองเสียใหม่ดีกว่าไหม อย่ารอให้ใครยื่นมือมาดึงขึ้น จงลุกยืนด้วยตัวคุณที่เป็นคุณ แล้วประกาศว่าฉันอยู่ได้โดยไม่มีเธอ จงนำบทเรียนที่ได้รับ กลับมาเป็นครูไว้คอยสั่งสอน ให้ต่อไปในทุก ๆ ตอน ฉันมีสิ่งที่สอนแล้วว่ามันเป็นอย่างไร
มีคำถามอยู่ในใจคิดไม่ออกจะมีใครช่วยบอกตอบได้ไหม นาฬิกา ระยะทาง หรือหัวใจ เพราะอะไรทำไมต้องร้างลา ระยะทางที่ไกลใช่เหตุผล หัวใจคนต่างหากคือปัญหา หากมั่นคงแต่ไหนแต่ไรมา ให้เวลาพิสูจน์ระยะใจ มีคำถามเอาไว้เป็นข้อสอบ ใครช่วยตอบให้หายคลายสงสัย ว่าเหตุผลเพราะเวลาที่เปลี่ยนไป หรือเหตุผลเป็นเพราะใจคนเปลี่ยนแปลง
สถานการณ์ยากยั้ง ใจคน ด้วยหลายหลากคละปน แผกบ้าง คิดเห็นต่าง จำนน ย่อหยุด เถิดพ่อ ใช่คิดแต่ จะล้าง ต่างล้วน เป็นไท กติกามีอยู่นั้น ควรมอง มิใช่คิดยึดครอง บ่นบ้า มัวเมามิไตร่ตรอง ผลส่ง วิบัตินา พาประเทศอ่อนล้า ยากก้าว เดินไกล เขียนมาก็ใคร่ร้อง เชิงเรียน ด้วยศักดิ์ของผู้เขียน ยังต่ำต้อย หากเพราะห่วงจึงเพียร ประดิษฐ์ หาถ้อยคำมาอ้าง ฝากไว้ ให้ตรอง
พนมกรกราบลงหน้าองค์พระ ตั้งสัจจะ...น้อมจิตอธิษฐาน พร้อมธูปเทียนดอกไม้นำใส่พาน ขอนมัสการพระธรรมชี้นำดล... หมอบลงกราบจิตมั่นในวันนี้ กุศลกรรมที่กระทำจงนำผล พบหนทางสว่างใสในกมล ได้หลุดพ้นบ่วงกรรมเคยทำมา... นับจากนี้อาราธนารักษาศีล พาชีวินน้อมธรรมช่วยรักษา ตัดกิเลสเหตุแห่งกรรมที่นำพา เกิดชาติหน้าหลุดบ่วงเขาลวงใจ... ลูกขอน้อมพระธรรมเป็นที่พึ่ง ช่วยฉุดดึง...จากนรกที่หมกไหม้ มีปัญญามองเห็นความเป็นไป เพื่อเข้าใจสัจจธรรมธรรมดา....
อันชื่อเสียงเงินทองกองตรงหน้า แลกยศถาพาศักดิ์อันบาตรใหญ่ แยกชนชั้นสูงต่ำกลางร่ำไป เส้นกูใหญ่จะทำไมใครกล้าคาน แค่ไม้ซีกริจักงัดซุงต้น มึงแค่คนต่ำต้อยร้อยสังขาร ก็มีแบ๊คตัวโตอันโอฬาร ย่อมสำราญไร้ผิดลิขิตพาล อันลูกกูข่มขืนกำแหงข่ม อยากดอมดมเมียใครได้ผสาน ฤาลูกใครสวยสดกดกายนาน ผิดมิคร้านหลุดรอดไป่กลัวเกรง ยอมอยู่ใต้อำนาจอันบาตรเขื่อง ยอมขายเรื่องศักดิ์ศรีลี้ข่มเหง ให้กูรอดกูพ้นกูนักเลง กูได้เบ่งใครล้มช่างหัวมัน น่าอนาถความคิดสติอ่อน ศีลธรรมนอนถับถมดูขำขัน เอาตัวรอดกอดอำนาจยศถากัน ศักดิ์ศรีนั้นความเป็นคนเสื่อมถอยลง ยินคำพูดดูดสติได้สลด สังคมหดเสื่อมสิ้นน่าสารสง คุกมีไว้ ขังหมา ขี้เรื่อนปลง อีกหนึ่งบ่ง คนจน ไร้ทางเดิน อันกูรวยเงินทองอำนาจส่ง กฏหมายคงไร้หมายมิขัดเขิน ทุกวันนี้ตัวกูต้องเผชิญ ความเจริญเหยียบย่ำธรรมจรรยา พระท่านว่า "ต่อไป คนจะเห็นกงจักรเป็นดอกบัว ถูกเป็นผิด ผิดเป็นถูก ไร้ศีลธรรมจรรยา" ใครจะทำไม ??
* วาบหวามใจ * ๐ ตอนแรกรักฝากไว้ฤทัยมั่น แสนผูกพันซาบซึ้งรำพึงฝัน ยามมาร้างหลีกไปมิคล้ายกัน มากผูกพันเศร้าจิตหากคิดไป ๐ โอ้นี่หรือความรักมักเที่ยวหา ม่านบังตาแปรผันจนฝันใฝ่ หากคะนองระเริงบันเทิงใจ มีหวังได้สู่ห้วงล่วงลับพลัน ๐ ปีเดือนวันเกิดปัญหาจนล้าจิต ผวนชีวิตจึงเพลียแทบเสียขวัญ หลายเหตุผลสร้างลงมิตรงกัน ทุกคืนนั้นผันเปลี่ยนสู่เวียนวน ๐ อันความรักกับใคร่ควรใฝ่คิด บ่วงชีวิตปะปนเปลี่ยนวนข้น ซึ่งรูปลักษณ์กับใจดูคล้ายปน จึงมากล้นล้วนแปรผ่านแย่กัน ๐ พอเริ่มแรกหัวใจคล้ายยึดมั่น เขาพูดกันลืมทุกข์ด้วยสุขสันต์ กลิ่นหอมอวลซาบซึ้งมาขึงพัน พอผ่านวันนานเข้าเฝ้าแยกทาง ๐ ก่อนจะคิดดำเนินอย่าเพลินไว้ จงตรึกให้แน่นอนจึงผ่อนสร้าง หญิงกับชายคล้ายไฟที่ไหม้ฟาง ย่อมจืดจางปวดร้าวเฝ้าเรืองรอง ๐ ควรรู้จักเลือกใช้ในหลายอย่าง จงหวนสร้างใฝ่คิดให้ติดสมอง หมั่นตั้งสติตรวจตราที่คราปอง อย่าหม่นหมองต่อตนจนละอาย ๐ คิดหากรักมากน้อยค่อยตรวจซึ้ง ควรคำนึงต่อกันยากพลันสลาย แม้นรู้จักคิดสร้างระหว่างกราย ย่อมสู่สายทางราบวาบหวามใจ. * แก้วประเสริฐ. *
บทกวีนำเสนอเพื่อรำลึก ก้าวสู่ ๒๔ ปี ...สืบ นาคะเสถียร เรื่องที่ ๑ " คู่รักอมตะ " รักแท้..ที่มีให้ ในโพรงไม้ซบไออุ่น คาบเหยื่อมาเจือจุน อย่างเนื่องหนุนไม่เหนื่อยหน่าย เมียลูกผูกรักมั่น เหยื่อป้อนปันปากโพรงไม้ เร้นลับบินนับไกล รังปลอดภัย ไม่เคยท้อ หัวเเรงแห่งครอบครัว ใจเกินตัวหัวอกพ่อ รักแน่ จริงแท้หนอ แม่ลูกรอ พ่อกลับมา วันใด.. พ่อไม่กลับ ถูกคนจับ หายลับหน้า บ้านโพรงก็โล่งตา ลูกเมียลา ตายตามไป รักแท้ ..ที่โลกเห็น ป่าลับเร้นเป็นไปได้ นกเงือก เทือกพงไพร รักยิ่งใหญ่..คนอายจัง ! น่าสลดสุดหดหู่ หัวนกหรู.. อยู่ผนัง ฆ่าเขาตายใจร้ายจัง แขวนหัวตั้งช่างทารุณ.. แขวนหัวท่าน..เช่นนั้นบ้าง คงหมดกร่าง เหมือนดังหุ่น สังเวชกิเลสหนุน นกมีคุณ ..การุณเทอญ !! ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐ ... นกเงือกเป็นนกผัวเดียวเมียเดียว จะมีการเกี้ยวพาราสี เมื่อตัวเมียเข้าไปอยู่ในโพรง จะทำความสะอาดแล้วเริ่มปิดปากโพรง ด้วยวัสดุต่าง ๆ เช่น ดิน เปลือกไม้ ตัวเมียจะผสมวัสดุเหล่านี้กับมูลของมันเอง เมื่อปิดปากโพรงจึงเหลือเพียงช่องแคบ ๆ ตัวเมียจะขัง ตัวอยู่ภายในเพื่อออกไข่เลี้ยงลูก ตัวผู้จะทำหน้าที่ดูแลตัวเมียและลูกโดยส่งอาหารผ่านทางปากโพรง นกเงือกจะมีส่วนหนังเปลือยเป็น สีฉูดฉาดอยู่บ้าง เช่น บริเวณคอ ขอบตา มีขนตายาว ขาสั้น ชอบกระโดด ลิ้นสั้น จึงกินอาหารโดยจัดอาหารให้อยู่ที่ปลายปากแล้วโยน กลับลงคอไป
คนที่ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นของเรา (ถูกใจมากจำเขามา)ปล่อยให้คนที่เรารักมีชีวิตของเขา…
อยู่บนเส้นทางของเขา กับคนของเขา…
ในขณะที่ความรักของเราก็ดำเนินต่อไป…
ให้ความถูกต้องยิ่งใหญ่อยู่ในสมอง…
ให้ความงดงามอยู่ในหัวใจ…ตลอดไป… มีบางครั้งในชีวิต ที่เราเกิดรู้สึกประทับใจใครสักคน ในเวลาที่เราไม่อาจจะทำอะไรได้ แม้มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย…เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่เราจะพบใครคนหนึ่ง ที่สามารถตอบตัวเองได้ว่า “เป็นคนที่ตามหามาตลอด” และมันก็ยากพอ ๆ กับการตัดใจ ความรัก…เป็นความรู้สึกที่บางครั้ง ก็อยู่นอกเหนือการควบคุมของความคิด เราจึงสามารถรู้สึกได้ รักได้โดยใช้หัวใจรัก แต่ขณะเดียวกัน การแสดงออก และการกระทำต่าง ๆ นั้น กลับต้องใช้ “หัวใจ” และ “สมอง” ไปพร้อม ๆ กัน หัวใจ…จะคอยบอกว่าเรารักได้ เพราะมีสิทธิ์ที่จะรักสมอง…จะบอกว่ารักแล้ว จะสามารถแสดงออกได้แค่ไหนคนบางคนเกิดมาเพื่อให้เรารัก แต่ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นของเราทำได้ไหม รักในแบบไม่เรียกร้อง ไม่ต้องการอะไร รักเพราะรู้สึกรัก…เพราะว่ารักเต็มตื้นอยู่ในหัวใจ ปล่อยให้คนที่รักมีชีวิตของเขา อยู่บนเส้นทางของเขา กับคนของเขา ในขณะที่ความรักของเราก็ดำเนินต่อไป ให้ความถูกต้องยิ่งใหญ่อยู่ในสมอง ให้ความรักงดงามอยู่ในหัวใจ…ตลอดไป
+++++++++++++++++++++ เคยถาม ตัวเอง บ้างรึเปล่า ว่าชีวิต คนเรา จะยืนยาวแค่ไหน หากเวลา ของวันนี้ หมดลงไป เช้าวันใหม่ ยังเหลือไหม วันเวลา เคยทำ อะไร ผิดไว้กับใคร กล้าขอโทษ เขาไหม หรือไม่กล้า เก็บคำขอโทษไว้ ผ่านไปกับเวลา จนวันหนึ่ง คงหมดปัญญา ไปขอโทษใคร ++++++++++++++++++++++
อารมณ์ดี...มีรอยยิ้ม พริ้มบนหน้า ส่งแววตา หน้าสดใส ให้สุขสันต์ อารมณ์ร้าย...คล้ายโกรธใคร ได้ทั้งวัน ไม่สรวลเส เฮสันต์ กันกับใคร อารมณ์เลว...เหมือนเปลวไฟ ไหม้ทุกอย่าง ใครกีดทาง มาขวางกั้น มันเผาไหม้ อารมณ์คน...มันก็เคลื่อน เหมือนเลื่อนไป เร็วทันใจ ไม่ทันเปลี่ยน เวียนหมุนพลัน อารมณ์ร้อน...ก่อนจะเย็น เหมือนเป็นบ้า ใครพูดมา หาเสียงใด ไม่ขบขัน อารมณ์เย็น...เป็นเช่นนี้ ดีทั้งวัน มีแต่เรื่อง เฟื่องขำขัน พลันเฮฮา อารมณ์คุณ...คุ้นว่าเป็น เช่นแบบไหน ดีหรือร้าย คล้ายเลวร้อน ค่อนหนักหนา อารมณ์ไหน...ใคร่ควรรู้ คู่ปัญญา และรู้ว่า อารมณ์ไหน ควรใคร่เป็น
เป็นพ่อค้า ขายเกลือ ไปเหนือใด้ ให้คนใช้ เพิ่มรสชาติ ไม่ขาดสาร รสของเกลือ ย่อมต่าง จากน้ำตาล อันหนึ่งหวาน อันหนึ่งเค็ม ถ้าเล็มลอง ขาดอย่างหนึ่ง อย่างใด ย่อมไร้รส ขายไม่หมด ทิ้งไป เสียดายของ สู้อุตส่าห์ หาบมา เพื่อให้ลอง วานอย่าจ้อง จับผิด คิดจนไกล คนขายเกลือ ใช่เค็ม เหมือนรสเกลือ ขอ อย่าเชื่อ รูปลักษณ์ จากเงื่อนใข ดูแต่เรื่อง สังข์ทอง นั่นเป็นไร ถอดเงาะได้ ยังเห็นเป็นรูปทอง ============================= คำนินทา กาเล เหมือนเทน้ำ ไม่ชอกช้ำ เหมือนเอามีด มากรีดหิน แม้องค์พระ ปฏิมา ยังราคิน คนเตินดิน หรือจะพ้น คนนินทา ยังใช้ได้มาจนทุกวันนี้
ได้ยินข่าว ครูจากไป ใจหายวาบ เพื่อนโทรฯ แจ้ง ให้ทราบ เมื่อเช้านี้ หมดเรี่ยวแรง แข้งขาอ่อน ลงทันที โศกทวี น้ำตานอง ปริ่มสองตา ข้ายกมือ ประนม เสมออก หมายจะยก ใจไปสู่ ครูนั้นหนา ครูผู้เป็น เช่นบิดร และมารดา ทั้งชีวา ข้าได้ดี ก็ที่ครู รอยไม้เรียว วันเก่า ยังจำได้ คำสอนใจ ครูพร่ำบอก คอยกรอกหู ให้อดทน และตรงเที่ยง เยี่ยงตราชู รู้อดสู ละอายใจ ไม่ทำเลว ชีวิตข้า เคยตกต่ำ ถลำลึก ใคร่ครวญนึก วันที่ตน พ้นปากเหว แม้ใครใคร จะตราหน้า ข้าคนเลว ครูเปรียบเปลว แสงธรรม นำพ้นมา ครูฉุดข้า ขึ้นมา จากกองขยะ เศษสวะ ขยะสังคม คนหยามหน้า ครูใส่ใจ ครูให้รัก ให้เมตตา จนวันนี้ ข้าเชิดหน้า สู้ตาคน ตั้งใจไว้ ปีใหม่ ได้หันกลับ เพื่อไปกราบ เท้าครู อีกสักหน วันคืนเดือน เคลื่อนไป ใจร้อนรน ได้ยินเสียง ครูอีกหน เมื่อไม่กี่วัน ***************** อนิจจา ครูของข้า ไม่อยู่แล้ว จิตแน่แน่ว ขอส่งครู สู่สวรรค์ ชาติหน้ามี ศิษย์คนนี้ ขอพบกัน สัญญามั่น " ชีวิตนี้....ดีเพื่อครู "
เขาบอกว่าความรักสร้างโลก ความโกรธที่ใด้จากความรักหล่ะ.....เคยคิดถึงหรือเปล่า คิดอะไรที่มันง่ายเกินไปมันไม่เกิดผลดีในอนาคตหรอกน่ะ จิตใจเราคิดว่าทำถูกเสมอ....ทั้งๆที่คนส่วนใหญ่..พ่อแม่พี่น้องบอกว่าไม่ถูก แต่ไม่รับฟังเจตนาดีของเขาน่ะ.....นี้แหละเขาจึงว่าความรักทำให้คนตาบอด สร้างโลกให้วุ่นวาย ...จริงไหม..คุณว่า
รักตนอย่าจนใจ
อย่ารักใครอย่างทุ่มเท
สักวันเขาหันเห
จะเจ็บร้าวราวชีพวาย
เรื่องรักมักแปรเปลี่ยน ใจคนเวียนน่าเบื่อหน่าย รักแล้วก็กลับกลาย ผลสุดท้ายอาจชิงชัง หวังรักจะสดใส คงนับได้อย่าพึงหวัง สำรวมใจระวัง อาจภินท์พังไมแน่นอน ใครใคร่รักก็รักเถิด ให้ดีเลิศสโมสร เห็นค่าตนไว้ก่อน ไม่รุ่มร้อนตอนจากลา รักดีนั้นมีแน่ ก็พ่อแม่รักลูกยา รักยิ่งกว่าแก้วตา เกินสรรหามาเปรียบเปรย รักกันต้องเข้าใจ คือการให้ไม่ละเลย สุขทุกข์ไม่เชือนเฉย ฝึกให้เคยไม่ช้ำใน...อิอิ ช้ำในก็ใบบัวบกเน้อ .....
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๕ อรุณฤกษ์ เบิกฟ้า คราปีใหม่ จงสดใส สิ้นทุกข์ สุขเสริมศรี สู่ก้าวใหม่ ก้าวมั่น วันเริ่มปี มุ่งคิดดี ทำดี มีโชคชัย มีสติ มั่นไว้ ไม่หลงผิด มีปัญญา รู้คิด จิตผ่องใส รู้หน้าที่ เพื่อสังคม ชมชื่นใจ สามัคคี กันไว้ ปีใหม่มา กระต่ายไป งูใหญ่มา พาดีขึ้น ให้ราบรื่น ชื่นบาน งานก้าวหน้า ให้กิจการ ค้าขาย ได้ราคา ให้เงินตรา มีใช้ ไปทั้งปี ให้เข้มแข็ง แรงดี มีคนรัก ให้ยศศักดิ์ ก้าวไป ในหน้าที่ ทำสิ่งใด ถูกโฉลก ล้วนโชคดี ให้สุขสม สุขศรี ปีใหม่เทอญ อาจารย์ฐปกรณ์ โสธนะ (ลุงรอง)
เจ้าพุ่มพวงร้องดังไปแปดบ้าน ญาติเผ่าพงษ์วงศ์วานนั่งห้อมล้อม มีของกินกล้วยอ้อยหลายชะลอม มารับขวัญเห่กล่อมโกนผมไฟ ผู้เฒ่าแก่ทำนายและทายทัก เจ้าหลานรักภายหน้าจะยิ่งใหญ่ ทำการงานจะสำเร็จโดยเร็วไว มีโชคชัยเป็นเจ้าเป็นนายคน โอ้ลูกจ๋าแม่ถนอมเฝ้ากล่อมเกลี้ยง หวังแค่เพียงแก่เฒ่าพึ่งสักหน มุ่งอบรมสอนสั่งอย่างอดทน การศึกษาเสาะค้นให้อย่างดี หวังให้ลูกเติบใหญ่ไปภาคหน้า ได้เก่งกล้าเป็นหลักมีศักดิ์ศรี เพราะกำลังแม่ทำได้แค่นี้ อนาคตอยู่ที่ตัวลูกแล้ว...